
หากคุณเคยอ่านบทความของเราเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คุณคงทราบแล้วว่ามันมีส่วนทำให้เหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยและรุนแรงมากขึ้น และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่รู้จักมายาวนานในเรื่องไฟป่า ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ก่อนอื่น NOVA ขอแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติอันร้ายแรงครั้งนี้ เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัว เพื่อนฝูง และบ้านเรือน โดยต้องกลายเป็นคนไร้บ้านอย่างไม่คาดคิด และสำหรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อาสาสมัคร แพทย์ และผู้คนมากมายที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น—โลกเห็นความกล้าหาญของคุณ ขอให้คุณเข้มแข็งและปลอดภัย! |
เจาะลึกผลกระทบ
มีความเข้าใจผิดทั่วไปที่ว่า ผู้ที่สูญเสียบ้านจากไฟป่าส่วนใหญ่เป็นคนร่ำรวยและสามารถซื้อบ้านใหม่ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ แต่ความเป็นจริงกลับซับซ้อนกว่านั้น เจ้าของบ้านหลายคนซื้ออสังหาริมทรัพย์ของพวกเขามาหลายสิบปีก่อน และได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป สำหรับคนเหล่านี้ บ้านของพวกเขาคือแหล่งความมั่งคั่งหลัก บ้านเหล่านี้อาจเป็นเงินทุนสำหรับการเกษียณอายุ หรือค่าเล่าเรียนของหลาน ๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างสูญไปหมดแล้ว
ตลาดประกันภัย
แม้กระทั่งก่อนเกิดไฟป่าครั้งนี้ แคลิฟอร์เนียก็เผชิญกับวิกฤตด้านประกันภัยอยู่แล้ว ความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของภัยพิบัติทางธรรมชาติได้บีบให้บริษัทประกันภัยหลายแห่งต้องถอนตัวออกจากรัฐ หรือปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยอย่างมาก บริษัทประกันที่ออกจากรัฐให้เหตุผลว่า การปรับเพิ่มเบี้ยประกันที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลนั้นยังไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมความสูญเสีย โดยเฉพาะหลังจากฤดูไฟป่าที่ผ่านมา
และในขณะนี้ เมื่อไฟป่าในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ปี 2025 กลายเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ วิกฤตนี้ก็ยิ่งเลวร้ายลง
อย่าลืมว่าผลกระทบนี้ส่งผลโดยตรงต่อตลาดที่อยู่อาศัย ประกันภัยไม่ใช่สิ่งที่เลือกได้ แต่เป็นสิ่งจำเป็น หากคุณใช้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ผู้ให้กู้จะไม่อนุมัติสินเชื่อหากไม่มีประกันภัย และหากเบี้ยประกันภัยรายปีสูงเกินไป ผู้กู้หลายรายอาจไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ เนื่องจากข้อจำกัดของอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้
รัฐจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยการออกกฎระเบียบและนโยบายใหม่ ๆ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดประกันภัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ราคาบ้านและความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย
แม้ก่อนเกิดไฟป่า ลอสแอนเจลิสก็เผชิญกับวิกฤตความสามารถในการซื้อบ้านอยู่แล้ว ซึ่งเกิดจากปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ทำให้ผู้ซื้อที่มีศักยภาพจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงตลาดได้ ตอนนี้ เมื่อบ้านจำนวนมากถูกทำลาย และผู้คนจำนวนมากต้องไร้ที่อยู่อาศัยและต้องการบ้านอย่างเร่งด่วน ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานยิ่งเลวร้ายลง
จะเกิดอะไรขึ้นกับราคาอสังหาริมทรัพย์หลังไฟป่า? จากการศึกษาของ Redfin พบว่าราคาอสังหาริมทรัพย์อาจลดลงในระยะสั้น เนื่องจากบ้านที่ได้รับความเสียหายจากไฟหรือที่ดินที่ต้องการการเก็บกวาดซากปรักหักพัง จึงมักขายในราคาลดลง อย่างไรก็ตาม การลดรคาลงนี้ไม่ได้ยืนยาวนัก ในระยะกลางและระยะยาว ราคามักจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากบ้านใหม่ที่สร้างขึ้นมักใช้วัสดุที่ทันสมัยและมักจะมีราคาแพงกว่า ซึ่งสามารถต้านทานไฟได้ดีกว่า มาแทนที่โครงสร้างเดิมที่ถูกทำลายไป
ตลาดปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์
กฎหมายควบคุมราคาของรัฐแคลิฟอร์เนียห้ามไม่ให้เจ้าของบ้านปรับขึ้นค่าเช่าเกิน 10% ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติกลับมีช่องโหว่สำคัญ โดยนายหน้าอสังหาริมทรัพย์บางรายรายงานว่า มีการขึ้นค่าเช่าอย่างผิดกฎหมายในอัตรา 15–20%
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางด้านมืดของเหตุการณ์เหล่านี้ ยังมีเรื่องราวของความหวังและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ตัวอย่างเช่น The Oppenheim Group เสนอบริการของพวกเขาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่สูญเสียบ้าน Coldwell Banker Realty ได้ตั้งเต็นท์นอกศูนย์ฉุกเฉินในเวสต์วูด เพื่อแจกคู่มืออย่างเช่น การดำเนินชีวิตหลังการอพยพเนื่องจากไฟป่า (Navigating Life After Wildfire Displacement) นายหน้าอสังหาริมทรัพย์บางรายยังทำงานล่วงเวลาโดยไม่คิดค่าคอมมิชชั่นเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ไร้ที่อยู่อาศัย คำพูดหนึ่งที่มักถูกอ้างถึงโดยนักเขียน Erich Maria Remarque ดูเหมาะสมในสถานการณ์นี้: "ในช่วงเวลาอันมืดมน แสงสว่างจากผู้คนจะมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด"
ไฟป่าจะส่งผลกระทบต่อรัฐใกล้เคียงอย่างไร?
ผลกระทบของไฟป่าจะไม่จำกัดอยู่แค่ในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น รัฐใกล้เคียงอย่าง เนวาดา มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากการไหลเข้าของผู้คนและการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในตลาดอสังหาริมทรัพย์
แม้ก่อนเกิดไฟป่า ชาวแคลิฟอร์เนียจำนวนมากก็เริ่มย้ายออกจากรัฐ เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงและปัญหาสังคมต่าง ๆ ไฟป่าอาจเป็นแรงผลักดันเพิ่มเติมที่ทำให้พวกเขาย้ายออกไป ไม่ใช่แค่เพราะความเสี่ยงของไฟป่าใหม่และความต้องการหาสถานที่ปลอดภัยกว่า แต่ยังรวมถึงผู้ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านของตนเองแล้วสูญเสียบ้านไป อาจต้องเช่าอยู่นาน และอาจไม่สามารถจ่ายค่าเช่าที่สูงขึ้นได้ สถานการณ์เดียวกันอาจเกิดขึ้นกับผู้เช่าระยะยาว ที่เคยได้ราคาค่าเช่าที่ดีจากสัญญาเช่าเก่า แต่ตอนนี้ต้องหาที่อยู่อาศัยใหม่และเผชิญกับราคาตลาดปัจจุบันที่สูงมาก รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรง
แม้ว่าพื้นที่ลอสแอนเจลิสจะยังคงเป็นที่นิยม แต่หลายคนที่ย้ายออกไปเพราะไฟป่าอาจพบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบ้านของพวกเขาไม่มีประกัน ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นคือ ในระยะยาว พื้นที่ที่สวยงามแต่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้อาจกลายเป็นที่อยู่อาศัยที่สามารถเข้าถึงได้เฉพาะผู้ที่มั่งคั่งที่สุดเท่านั้น
บทสรุป: โลกที่ต้องการการลงมือทำ
ปัจจุบันมีทฤษฎีมากมาย รวมถึงทฤษฎีสมคบคิด ที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุของไฟป่าในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ การจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติทางธรรมชาติกำลังเกิดขึ้นบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
หากเราต้องการปกป้องบ้าน ชุมชน และอนาคตของเรา เราจำเป็นต้องลงมือทำ – ยิ่งเร็วยิ่งดี
ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เชื่อถือได้กับ Headway NOVA ติดตั้งแอปเลยตอนนี้ →
ติดตาม NOVA ได้ที่ Facebook และ Telegram เพื่อติดตามเทรนด์อสังหาริมทรัพย์ล่าสุด